กิจกรรม #ข่าว

“เพื่อไทยช่วยไทย รวมใจช่วยน้ำท่วม”

พรุ่งนี้ขอไปให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยที่ร้อยเอ็ด และขอนแก่นนะคะ

เมื่อเดือนก่อน วันที่ 5 สิงหาคม ดิฉันและทีมเพื่อไทยอีกหลายสิบชีวิตได้มีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจัดประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์สัญจรของพรรค “เพื่อไทย สร้างไทย”​ ครั้งที่ 1

เราตั้งใจไปให้กำลังใจ และดูปัญหาภัยแล้งที่หนักที่สุดในรอบหลาย 10 ปีซึ่งส่งผลกระทบไม่ใช่เฉพาะแต่จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ภาคอีสานเกือบทั้งภาคได้รับผลกระทบจากภัยแล้งรุนแรงครั้งนี้ ซึ่งก็พบว่ารัฐบาลแก้ปัญหาได้ไม่ทันใจชาวบ้าน ทั้งไม่พูดความจริงกับพี่น้อง และทั้งยังไม่ยอมจ่ายเงินเยียวยา ให้ประชาชนผู้ประสบภัยแล้ง

มีภาพหนึ่งติดตาจำได้ดี ในวันที่ไปลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เรานั่งรถเดินทางข้ามอำเภอหลายอำเภอ ตลอดระยะทางเป็นร้อยๆกิโลเมตร เราได้เห็นภาพทุ่งนาสองข้างทางเป็นสีนำ้ตาล ข้าวยืนต้นแห้งตาย พื้นดินแห้งแตกระแหง

อดีตรัฐมนตรีศักดา คงเพชร และทีม ส.ส.ร้อยเอ็ดของเรา ได้พาไปดูแม่น้ำลำเสียวใหญ่ซึ่งเป็นแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงทุ่งกุลาร้องไห้ มีความยาวถึง 245 กิโลเมตร ภาพที่ปรากฏต่อหน้าเราคือลำน้ำแห้งผาก จน วัว ควายสามารถลงไปหาหญ้ากินที่ท้องลำน้ำได้

อย่าว่าแต่น้ำเพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรมเลย น้ำที่จะใช้สำหรับดื่มกินของชาวบ้านก็แทบจะไม่มีเหลือแล้ว ภารกิจหลักของ ส.ส. เพื่อไทยในเวลานั้น คือวิ่งวุ่นหานำ้กินมาช่วยชาวบ้าน

ในวันนั้นชาวบ้านได้เข้ามาหาดิฉัน พวกเขาร้องไห้แล้วเล่าถึงความทุกข์ยากจากความพยายามปลูกข้าวถึง 2-3 รอบ ที่ต้องกู้หนี้ยืมสินมามากมาย แต่ข้าวต้องยืนต้นตายทั้งหมดเพราะขาดน้ำ

แต่ไม่น่าเชื่อมาถึงวันนี้ วันจันทร์ที่ 2 กันยายน เวลาห่างกันเพียงราว 28 วัน จากวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ที่ดิฉันได้ไปเยี่ยมพี่น้องที่ร้อยเอ็ด

สภาพพื้นที่ของจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดอื่นๆในอีสาน ได้เปลี่ยนสภาพจากผืนนาที่แห้งแล้งดินแตกระแหง กลายเป็นทะเล ทุกแห่งทุกที่เต็มไปด้วยน้ำ น้ำท่วมหนักมาก ทั้งที่นาและที่อยู่อาศัย

หนักไปกว่านั้น คือน้ำตาของประชาชนที่ทุกข์ซ้ำสองรอบ แล้งก็แล้งหนัก ท่วมก็ท่วมหนัก ไม่มีเวลาให้ตั้งตัว

ดิฉันรู้สึกเห็นใจและสงสารชาวบ้านที่ต้องประสบภัยแล้งและต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำเติมอยู่ในขณะนี้อย่างยิ่ง

ดิฉันเข้าใจความทุกข์จากภาระหนี้สินที่ต้องกู้เงินมาปลูกข้าวในปีนี้ถึง 2-3 รอบ แต่ไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ และยังต้องมาถูกน้ำท่วมบ้านและที่นาของตนเองอีกในปีนี้ พี่น้องประชาชนกำลังแบกความทุกข์อยู่บนบ่าด้วยความหนักอึ้ง ทั้งหมดเงินทองที่จะซื้อข้าวกิน ทั้งปัญหาหนี้สินที่พอกพูน

พี่น้องคะ วันพรุ่งนี้ ดิฉันและทีมเพื่อไทย ขอไปให้กำลังพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบอุทกภัยทั้งที่ร้อยเอ็ด และขอนแก่น เราได้นำสิ่งของที่เราเปิดรับบริจาค จากศูนย์ประสานพรรคเพื่อไทย และศูนย์ประสานงาน ส.ส.ในทุกเขตเลือกตั้งของประเทศไปมอบให้พี่น้องประชาชนด้วย และสามารถร่วมบริจาค​เงิน​ช่วยเหลือ​ผู้ประสบภัย​ได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาไทยซัมมิท ชื่อบัญชี เพื่อไทยช่วยไทย รวมใจช่วยน้ำท่วม เลขที่บัญชี 493-​1-08065 -​7

แล้วพบกันนะคะ

เราจะจับมือสู้ไปด้วยกันนะคะ

กิจกรรม #ข่าว

แหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ “บางกอกน้อยโมเดล”

หนึ่งในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่สามารถใช้เป็นต้นแบบการท่องเที่ยวให้กับเขตต่างๆได้เป็นอย่างดี ขอยกให้กับเขตบางกอกน้อย หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นการท่องเที่ยวในรูปแบบของ “บางกอกน้อยโมเดล” ค่ะ

เมื่อวานหน่อยและทีมเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ ชุมชนบ้านบุ เขตบางกอกน้อย โดยมี“น้องก้องพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ” ทีมเพื่อไทยที่เข้มแข็งประจำเขตได้พาลงชุมชน เราได้ไปดูเส้นทางการท่องเที่ยว ตามที่ได้เคยสัญญาไว้กับพี่น้องเมื่อครั้งก่อนว่า เราจะมาช่วยคิดช่วยพัฒนาชุมชนบ้านบุ ให้สามารถใช้ศักยภาพที่ชุมชนมีอยู่ นำมาช่วยสร้างรายได้ สร้างความอยู่ดีกินดีให้กับพี่น้องในชุมชนได้อย่างไรบ้าง

ชุมชนบ้านบุอยู่ติดกับ “วัดสุวรรณาราม” ซึ่งภายในพระอุโบสถ มีจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับการยกย่องกันว่ามีความสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย ขณะที่ท่านเจ้าอาวาสก็ได้ให้ความเมตตากับชุมชนบ้านบุเป็นอย่างมาก

ที่ชุมชนบ้านบุมีการทำ “ขันลงหิน” ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียว ทุกขั้นตอนทำด้วยมือล้วนๆ ช่างฝีมือที่ทำอายุน้อยที่สุดก็ตั้ง 68 ปีแล้ว หน่อยได้มีโอกาสสัมภาษณ์ช่างฝีมือ และตามติดการทำขันลงหินในหลายขั้นตอน ใครที่สนใจไปชมได้ที่ไลฟ์สดเมื่อวานค่ะ

ในบริเวณนี้ ยังมีสถานที่สำคัญอีก 2 แห่งคือ “โรงรถจักรธนบุรี” ที่ยังรักษาซ่อมแซม หัวรถจักรไอน้ำที่ใช้ตั้งแต่ก่อนยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้อยู่ในสภาพที่วิ่งได้ถึง 4 หัว 
และยังมี “ตลาดไร้คาน” ตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่สร้างด้วยเทคนิคพิเศษในสมัยนั้นด้วยโครงไม้และยึดด้วยเหล็ก สวยงามมากค่ะ ทั้งขนม และอาหารก็อร่อยมากเช่นกัน

ไม่ไกลจากชุมชนบ้านบุ ก็มีชุมชนมุสลิม ที่สืบเชื้อสายมาจากท่านเฉกอะหมัด แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของ มัสยิดกุฎีหลวง ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเป็นที่ตั้งของชาวมุสลิมมาแต่ครั้งกรุงธนบุรีแล้ว ยังได้รับพระมหากรุณาที่คุณจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 พระราชทานที่ดิน และได้พระราชทานทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมัสยิดอีกด้วย

เขตบางกอกน้อย มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และทรงคุณค่าทางจิตใจซ่อนตัวอยู่มากมาย มีเสน่ห์และมีจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจะต้องเข้ามาเช็คอินอย่างแน่นอน

เราจะสร้าง #บางกอกน้อยโมเดล โดยการนำความแข็งแกร่งของชุมชน มาสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับพี่น้องชาวบางกอกน้อย ด้วยการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่อไป

นี่คือหนึ่งในเป้าหมายของ #เพื่อไทยยุคใหม่ ที่ทีมเพื่อไทยทั้งในสภา และนอกสภา จะต้องช่วยกันคิดค้น นวัตกรรมแก้จน เพื่อช่วยเหลือประชาชน และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในทันที เหมือนที่เราตั้งเป้าหมายใหม่ในการทำงานไว้ว่า ทีมเพื่อไทยยุคใหม่ ต้อง “คิดใหม่ ทำเร็ว” ลงมือแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้ทันที เพราะ #ปัญหาเศรษฐกิจรอช้าไม่ได้

“แม้ว่าเพื่อไทยเราจะไม่ได้เป็นรัฐบาล เราก็จะไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชน เพราะทุกข์ของพี่น้องคนไทย คือทุกข์ของเพื่อไทยเช่นกันค่ะ”